พบกับ ในบ้าน เป็นประจำเช่นเคยนะคะ และเราก็มาพร้อมกับไอเดียสำหรับออกแบบตกแต่งพื้นที่พักอาศัยอันแสนสุขกันเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้จะเป็นในส่วนของการ รีวิว ตกแต่งคอนโด ขนาด 50 ตารางเมตร ด้วยสไตล์คอนเทมโพรารีลอฟท์ ที่ให้ทั้งความสวยดิบและความสวยงามเรียบง่ายไปในคราวเดียวกัน
โดยรีวิวการตกแต่งในวันนี้เป็นของคุณ Nopash ที่ได้เปลี่ยนแปลงคอนโดมิเนียมมือสองของตัวเอง ให้กลายเป็นห้องพักอาศัยที่เต็มไปด้วยบรรยากาศน่าอยู่ ผ่านการตกแต่งห้องนั่งเล่นสไตล์ลอฟท์และห้องนอนสไตล์คอนเทมโพรารี ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เราลองไปชมกันเลยค่ะ
รีวิว ตบแต่งคอนโดขนาด 50 ตรม. (พ่อแต่งให้ครับ…)
(โดย Nopash)
เนื่องจาก จกขก. บ้านไกลจากที่ทำงานมาก จึงต้องเช่าหออยู่ใกล้ที่ทำงาน พอทำงานได้ปีกว่า ๆ เริ่มมีเงินเก็บ จึงได้ซื้อคอนโดมือสองใกล้ที่ทำงานเป็นของตนเองครับ ตอนไปเลือกตึกใหม่ ๆ ห้องใหญ่ ๆ ไว้ก่อนครับ ตอนจะซื้อก็วิ่งหาเงินกู้อยู่เป็นเดือน แบงค์ที่ปล่อยเงินกู้ให้นับนิ้วได้เลยครับ เพราะว่าบริษัทของ จขกท. ยังอายุไม่ครบ 3 ปี เลยกู้ยากครับ
แต่ในที่สุด… ธนาคารส้มก็ให้กู้สำเร็จ และขอยืมเงินจากหุ้นส่วนนิดหน่อย จึงได้ห้องคอนโดเป็นของตนเองจนได้ครับ
ตอนที่ซื้อคอนโดนี้อายุตึกเกือบ 2 ปีพอดีครับ ห้องที่ได้มาเป็นห้องโล่ง ๆ เจ้าของเก่าไม่ได้ทำอะไรเลย ดังรูปครับ
ห้องนั่งเล่น
ห้องครัว
ห้องน้ำ
ห้องนอน
ระเบียง
ตบแต่งยากครับ เพราะเป็นแนวลึกยาวทั้งสองห้อง ไม่รู้จะทำยังไง เลยพาพ่อมาดูครับ…
เริ่มที่ห้องนั่งเล่นก่อนครับ พ่อให้ช่างปูกระเบี้องยางที่รู้จักมาทำให้ครับ ปูกระเบื้องยางลายไม้ทับกระเบื้องสีขาวเดิม ขั้นตอนนี้หมดไปประมาณหมื่นนึงครับ
แล้วก็หมุนสีจระเข้ที่กำแพงด้านนึงครับ ให้มันแลดูเหมือนปูนเปลือย (พ่อดูจาก Youtube มาแล้วเอามาลองทำที่ห้องผม) ทำสีปูนเปลือย โดยเว้นเสาไว้ครับ ค่าสีจระเข้ประมาณ 1,500 บาท ครับ
จากนั้นพ่อก็พาไปซื้อวอลเปเปอร์ลายอิฐมาติดเสาที่เว้นไว้ครับ พ่อกับแม่มาช่วยกันติดครับ ค่าวอลเปเปอร์น่าจะประมาณ 1,000 – 2,000 บาท
จากนั้นก็ซื้อเฟอร์นิเจอร์มาลงครับ มือหนึ่ง มือสอง คละกันไป ก็มีโต๊ะกินข้าวไม้จากร้านในโฮมโปรราชพฤกษ์ เก้าอี้กินข้าว IKEA สีดำ อย่างถูก 2 ตัว โซฟามือสอง รถเข็นโค้ก ชั้นวางหนังสือพิงฝาผนัง บีนแบคจากลาซาด้า ภาพตบแต่งจาก SCB ตู้รองเท้าดำจาก Chic Republic ฯลฯ ครับ
โต๊ะกินข้าว ชั้นหนังสือ
โซฟา บีนแบค และตู้รองเท้าครับ
แล้วก็โคมเพดานมือสองครับ พ่อเอามาพ่นสีดำ และติดหลอด LED สี Cool White ครับ (สี Cool White มันเป็นสีกลาง ๆ อยู่ระหว่าง Day Light กับ Warm White ครับ ไม่ส้มไม่ขาวเกิน)
อ้อ ได้โต๊ะข้างโซฟาแบบมีล้อจาก Apina ด้วยครับ
สามห้อง ไฟคนละแบบไปเลย อิอิ (ห้องรับแขกเป็น cool white, ห้องน้ำเป็น warm white, ห้องนอนเป็น day light)
ส่วนนี่เป็นโต๊ะวางทีวีไม้ครับ ได้มาจากสนามหลวง 2 ราคา 18,000 บาท ผนังด้านทีวีพ่อทาหมุนสีส้มให้ (ใช้เทคนิคเดียวกับที่ทำสีปูนเปลือยครับ)
จากนั้นมาดูห้องครัวครับ ก็ทาสีปูนเปลือย 1 ด้าน ติดผนังอิฐ 1 ด้าน และเปลี่ยนโคมไฟครับ และลงตู้เย็นกับเครื่องซักผ้าครับ
และพ่อก็เอาไฟโค้กมาติดให้
ตอนนี้มาทางห้องนอนครับ เนื่องจากเป็นคนชอบดื่มชาเขียว เลยเลือกสีชาเขียวลาเต้ ทาผนังห้องนอน
ติด router ให้เล่นเน็ตได้ -“-
เดือนแรกนี่นอนแบบนี้ครับ ตังค์หมด ไม่มีเงินซื้อเตียง
พอเงินเดือนเข้า เราก็ถอยเตียง กับวอลสติ๊กเกอร์ลายไม้กล่องน่ารัก ๆ ติดเองกับพ่อครับ > <
และก็ซื้อโต๊ะทำงานจาก Oggi แต่เอามาตั้ง TV ดูตอนนอนก่อน และติดม่านกันเสียงครับ (เสียงรถวิ่งผ่านดังมาก ได้ยินชัดแม้ว่าจะอยู่ชั้นสูง)
และเราก็ซื้อของมาใส่ห้องนอนเราเรื่อย ๆ เริ่มจากโต๊ะหัวเตียงจาก IKEA (พบทีหลังว่ารุ่นนี้ ราคาไม่คุ้มคุณภาพและความเหนื่อยยากเลยครับ
ซื้อเก้าอี้แบบเข้าชุดให้โต๊ะทำงาน ของ Oggi
ซื้อชั้นหนังสือแบบเข้าชุดกับโต๊ะทำงาน ของ Oggi
ตู้เสื้อผ้าจาก SB
และเปลี่ยนไฟเพดานห้องนอนเป็นแบบ LED ครับ
มุมทำงานในห้องนอน
ภาพห้องนอนเมื่อมองออกไปที่ระเบียง
ภาพห้องนอนเมื่อมองจากระเบียงเข้ามา
จบแล้วค้าบ ฝากรูปสุดท้ายด้วย วิวจากระเบียงที่ห้อง และภาพห้องรับแขกแบบเต็ม ๆ ครับผม
ค่าเสียหายทั้งหมดกับการตบแต่งและเฟอร์นิเจอร์ ไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้า หมดไปประมาณเกือบๆ 1 แสนบาท ครับ
ติชม ได้นะครับ ผมจะได้ไปบอกคุณพ่อครับ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ครับ
และหากเพื่อนชาวเว็บสนใจรายละเอียดเกี่ยวกับการคำนวณค่าโอนคอนโดมือสอง ลองเช็คได้ที่ ค่าโอนคอนโด.com กันเลยนะครับ ^^
ที่มา : Nopash .
