ว่าด้วยเรื่องความฝันของคนรุ่นใหม่ หลายๆคนมีความฝันอยากจะท่องเที่ยวไปยังที่ต่างๆตามใจปราถนา การได้ออกไปค้นหาสิ่งใหม่ๆ พบปะผู้คนที่แตกต่าง เห็นอะไรที่ไม่เคยได้เห็น สิ่งเหล่านี้แหละคือเสน่ห์ของการเป็นนักท่องเที่ยว
ถ้าหากเกิดเป็นมนุษย์เงินเดือน ความฝันแบบนี้ก็คงจะอยู่ไกลสักหน่อยล่ะ คงต้องเริ่มจากทำงาน หาเงินเป็นสิบๆปี กว่าจะเก็บหอมรอมริบจนมีทรัพย์สมบัติไว้ใช้สอยอย่างใจคิด อายุก็ปาเข้าไปวัยเกษียณ พาลหมดไฟจนไม่อยากจะไปเที่ยวไหนกันพอดี
แต่จะดีแค่ไหนนะ ถ้าได้ท่องเที่ยวตามความฝันตั้งแต่เรายังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ซึ่งในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีคู่รักฮิปสเตอร์คู่หนึ่ง นามว่า Jessa และ Josh ได้เลือกใช้ชีวิตแบบนักผจญภัย ออกท่องเที่ยวไปทั่วประเทศด้วยรถพ่วงที่พวกเขาดัดแปลงให้เป็นบ้านที่เคลื่อนที่ได้
“1337 AIR STREAM” คือชื่อของรถบ้านหลังนี้ มีแนวคิดในการออกแบบที่เน้นความกะทัดรัดเป็นหลัก ฟังก์ชั่นการใช้งานภายในโดยรวมเป็นแบบคอมแพ็ค ประกอบไปด้วยห้องนอน ห้องทานอาหารกึ่งกลางแจ้ง และพื้นที่ทำครัวสไตล์คอมแพ็คที่พับเก็บได้ ซึ่งก็ตอบรับวิถีชีวิตนักผจญภัยที่เน้นใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่นอกบ้านได้เป็นอย่างดี
Jessa นั้นเคยมีอาชีพเป็นกราฟฟิคดีไซน์เนอร์ ส่วน Josh มีอาชีพเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์ ทั้งคู่ได้พบรักกันผ่าน Facebook เมื่อทั้งคู่อยู่ในเมืองใหญ่ได้สักพัก พวกเขาก็พบว่าชีวิตนั้นช่างวุ่นวาย ทุกวันต้องตื่นเช้า กิน ทำงาน และก็นอนหลับ ต้องวนเวียนอยู่แบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ได้มีเวลาให้จิตใจได้สงบบ้างเลย
ด้วยเหตุนี้เอง ทั้งคู่จึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ หางานอิสระ ขายข้าวของที่ไม่จำเป็นเพื่อเอามาเป็นทุนซื้อห้องระบายอากาศ ก่อนนำมาดัดแปลงเป็นบ้าน พ่วงติดกับรถยนต์ส่วนตัว ออกท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายที่จะพิชิตอุทยานแห่งชาติถึง 400 แห่งด้วยกัน
พวกเขายังมีลูกน้อยตัวเล็กวัย 2 ขวบ ที่ต้องคอยดูแลอีกด้วย นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีที่ลูกของพวกเขาอยู่ในวัยที่สามารถเรียนรู้และเผชิญกับความลำบากได้บ้างแล้ว ถึงแม้จะยุ่งยากสำหรับพ่อแม่มือใหม่ แต่พวกเขาก็สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสนุกสนาน และค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆได้อย่างมีความสุข
ในแต่ละวัน พวกเขาต้องวางแผนว่าจะไปค้างคืนที่ไหน? น้ำมันรถจะพอหรือไม่? รายรับที่ได้จากการทำงานอิสระจะเพียงพอสำหรับเลี้ยงชีพหรือเปล่า? เพราะพวกเขาต้องออกเดินทางตลอดเวลา
หลายๆคนอาจจะคิดว่าการมีอาชีพเป็นนักท่องเที่ยวเต็มเวลาเช่นนี้ เป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองไม่น้อย แต่การที่ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่าบ้าน ก็ช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่มัธยัสถ์พอสมควร
การที่ตัดขาดจากโลกที่วุ่นวาย พาตัวเองเข้าไปใกล้ชิดกับธรรมชาติ ปล่อยให้ทุกอย่างไหลไปอย่างช้าๆและเรียบง่าย ทำให้พวกเขาค้นพบว่า ‘ความสุขที่แท้จริง’ นั้น ไม่ใช่การทำงานดิ้นรนอยู่ในเมืองใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง แต่เป็นการได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวให้มากที่สุดนั่นเอง
และนี่ก็เป็นเรื่องสาวสุดฮิปสเตอร์ที่ ในบ้าน นำมาให้ชาวเว็บได้ชมเป็นแรงบันดาลใจกันครับ สำหรับใครที่ชื่นชอบความน่ารักของครอบครัวนี้ สามารถติดตามเรื่องราวของพวกเขาได้ที่นี่เลยครับ -> Instragram
ที่มา :theplaidzebra
