พื้นที่ว่างในสวนข้างบ้าน ถ้าคิดจะทำบ่อปลาแบบมีน้ำตกหรือน้ำวน หากจ้างช่างทำแบบสำเร็จรูปให้ ราคาอย่างต่ำๆ ก็เหยียบสองหมื่น แต่หากเราลงมือลงแรงด้วยตัวเองแบบไม่จ้างช่างฝีมือ หักค่าแรง และกำไรออกไป รวมอุปกรณ์ค่าใช้จ่ายก็อาจจะได้น้ำตกสวยๆ มาในราคาไม่ถึงหมื่นบาท ประหยัดเงินในกระเป๋าได้ตั้งเยอะ
ครั้งนี้ ในบ้าน จะพาเพื่อนๆ ไปชมการทำบ่อกำแพงน้ำล้น ของคุณ สมาชิกหมายเลข 3078133 ที่ได้หาข้อมูลในพันทิป และยูทูป จนได้เอามาลองจัดสวนในบ้านของตัวเอง ลองผิดลองถูกจนสำเร็จได้อย่างภาคภูมิใจ อีกหนึ่งผลงานที่น่าติดตาม ลองมาชมกันดูเลยค่า
แชร์ประสบการณ์ “ทำบ่อกำแพงน้ำล้นสำหรับแต่งสวน” ลองผิดลองถูกจนสำเร็จ ด้วยความภาคภูมิใจ
(โดย สมาชิกหมายเลข 3078133)
สวัสดีครับทุกท่าน ขอออกตัวก่อนครับว่า นี้เป็นกระทู้แรกของผมใน “พันทิป” แห่งนี้ หลังจากที่เข้ามาดู มาหาข้อมูล การทำม่านน้ำตกจากกระทู้และเวบไซต์ต่างๆ ถึงคราวที่ตัวเองจะลงมือทำเองซะที แต่การที่จะลงมือทำม่านน้ำตกเองแบบนี้ มันต้องอาศัยเวลาว่าง ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ อาจจะต้องใช้เวลากันสักหน่อยครับ หากมีอะไรผิดพลาด ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
เริ่มแรกเดิมทีผมเพิ่งจะซื้อบ้านเมื่อช่วงเดือนพศจิกายนของปีที่แล้ว ก็อย่างว่าละครับ คนเพิ่งเคยมีบ้านเป็นของตัวเอง เลยคิดที่จะแต่งบ้าน จัดสวน ทำโน้น ทำนี้ ตามประสาคนซน พอดีว่าช่วงเดือนธันวามีงานกาชาด เลยไปเดินเที่ยวกับแฟน แล้วก็ไปป๊ะกับมุมขายต้นไม้ แต่เค้ามีพวกม่านน้ำตก อ่างน้ำล้น แบบสำเร็จรูปขาย เลยสนใจเข้าไปถามราคาและก็ได้ความว่า อันใหญ่สุดราคา 15000 บาท ขนาดประมาณ กว้าง1.5M สูง1.5M
ก็เลยคิดในใจว่ามันดูทำไม่ยากนะ ราคา 15000 เนี้ย ถ้าเราทำเองคือตัดเรื่องค่าแรง และกำไรออกไป พวกค่าวัสดุและอุปกรณ์ก็ไม่น่าจะเกินหมื่น แถมอาจจะได้ขนาดที่ใหญ่กว่า และแบบที่ถูกใจเราด้วยความคิดชั่วร้ายจึงบังเกิดครับ
คือการเป่าหูแฟนครับบอกเลยว่า ” ตัวเองนี่ถ้าเราทำเองนะคงไม่เกินหมื่นหรอก แถมทำได้ใหญ่กว่าด้วย เค้าไปเดินดูรอบๆแล้ว ทำไม่ยากหรอกเตง” และนั้นคือที่มาของโปรเจคนี้ก็นั้นแหละฮะ ทั่นผู้ชม เรามาว่ากันต่อไปครับ
ผมหาข้อมูล รูปแบบ ราคาและวัสดุ ตามเวบต่างและก็ได้แรงบรรดาลใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยจนตกผลึกเมื่อวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมานี้เอง ตื่นเช้ามาก็ไปส่งแฟนทำงานตามปกติ ระหว่างทางขากลับก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่แล้วว่า ถ้าไม่
เริ่มทำวันนี้ แล้วเมื่อไหร่จะได้เริ่มทำ พอคิดได้แล้วก็ไปซื้ออุปกรณ์ที่จะใช้ในโปรเจคนี้ก่อนเลย สิ่งที่ได้มาคือ พั่วหัวตัด 1อัน (เอิ่ม แค่นั้นจริงๆ เพราะไม่รู้ว่าต้องใช้อะไรอีกบ้าง คิดแค่ว่า ขาดอะไรก็ค่อยไปซื้อเอา) แล้วก็ขับมอไซค์ต่อไปจนถึง “ท่าทราย” ที่ที่เค้าขายทราย ขายหิน ขายอิฐ ขายๆๆๆๆ นั้นแหละครับ
ก็ลงไปถามเค้าว่าอิฐบล๊อคขายยังไง คิดค่าส่งมั้ย (ผมมามอไซค์นะ) ก้ได้ความว่า อิฐบล๊อคก้อนละ 6.5 บาท ผมซื้อทั้งหมด 200 ก้อน ราคา 1400 บาท และพอบอกเรื่องสถานที่จัดส่งเค้าคิดค่าส่ง 100 บาท พอมาถึงบ้านได้ราวๆครึ่งชม. คนส่งอิฐก็โทรมา คนส่งมากันสองคน คือคนขับรถและคนขนอิฐ (คนขับรถก็แค่ขับรถจริงๆครับ ไม่ช่วยเพื่อนขนเลย)
พอได้อิฐมาแล้วก็เริ่มลงมือวัดขนาดพื้นที่ เพื่อจะเตรียมขุดเป็นบ่อ (วัดแบบไม่ต้องคิดเยอะ ใช้จินตนาการล้วนๆ)
.
ขนาดก็ประมาณ 1.8 M x 0.8 M อุปกรณ์ก็ใช้พั่ว สับๆๆๆๆ ให้เป็นเส้น เป็นแนว แล้วก็เซ๊าะๆๆๆ ให้เป็นกรอบตามที่ต้องการ
วันต่อมาวันอาทิตย์ที่13 ตื่นมาก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ ความกระตืนรือล้น (อยากขุดๆๆๆ ให้เสร็จไวไว) ฮึฮึฮึ แล้วแฟนก็เดินมาตบที่บ่าเบาๆ แล้วพูดว่า ไปส่งชั้นทำงานก่อนนนนน
ครับ!!! นั้นแหละฮะทั่นผู้ชมฮะ หลังจากไปส่งแฟนที่ทำงานแล้ว ใช้เวลาเดินทางไปกลับก็ราวๆ 45นาที พอกลับมาถึงบ้านก็เริ่มเซาะดินต่อ เซาะไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ ผ่านไปถึงช่วงบ่าย ได้ผลงานออกมาอย่างที่เห็น
.
คิดว่าได้ความลึก ความกว้างตามที่รู้สึกต้องการแล้ว ก็ไปซื้อ หิน ปูน เพื่อมาเทพื้น ผมเลือกใช้ปูนสำเร็จเลย เพราะว่า
1.ไม่เคยผสมปูนเอง (ทำไม่เป็น)
2.หากต้องซื้อหิน ซื้อดิน ต้องซื้อมาแล้วเทกองไว้หน้าบ้าน ซึ่งคิดว่ามันคงไม่สะดวก
พอเลือกชนิดของปูนได้แล้ว ก็ซื้ออุปกรณ์ที่ต้องใช้เพิ่ม เช่น เกรียงใบโพธิ์ อ่างไนลอนผสมปูนขนาด 200ลิตร น้ำยากันซึม และถังใส่ปูน ตอนแรกก็ซื้อปูนเทปรับพื้นมา4ถุง ปูนฉาบทั่วไป4ถุง (ตรงนี้ ผมยังไม่รู้ตัวว่าผมยังขาดปูนอีกชนิดนึง)
กลับมาถึงบ้าน ก็เตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดลงพื้นที่ แต่เดี๋ยวก่อน ปูนถุงหนึ่งเนี้ย มันหนัก50โลเลยหรา (ทำไมเค้าไม่ทำแบบถุงเล็กๆ ขายครับ เผื่อคนที่ต้องการแค่ซ่อมแซมต่อเติมบ้างส่วนเล็กๆ ก็ซื้อถุงเล็กๆพอ) โอ้วปูนหนัก50โล แล้วคนงานที่ยกปูนก็ตัวเล็กกว่าผมอีก แต่ทำไมเค้ายกขึ้น ยกลงเหมือนง่ายจังเบย
พอผมยกปูนเองเท่านั้นแหละ เฮ้ย!!! ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนอุ้มผู้หญิงวัยรุ่น 1 คนถ้วนเลยครับ (คือ มันหนักอ่ะ) อิอิ ยกปูนแล้วฉีกถุงปูนลงในอ่างผสมปูน เครื่องป้องกันฝุ่น เช่น ผ้าบัฟอะไรก็ไม่มี ตอนนั้นอยู่ในฟอร์ม เกงบอลตัวเดียว เสื้อไม่ใส่ สภาพทุลักทุเลยังไงบอกไม่ถูกเลยครับ
พอเทปูนลงในอ่างเสร็จ ก็มานั่งอ่านอัตราส่วนผสมและวิธีการผสมข้างถุงปูน น้ำกี่ลิตร ต่อปูนกี่ถุง น้ำยากันซึมเท่าไหร่ ต่อปูนกี่ถุง อ่านเสร็จแล้วก็ลงมือต่อ
ผมใช้ปูนทั้งหมด 4 ถุงทีเดียวเลย (ครับทีเดียวเลย) โดยไม่ได้วัดว่าบ่อขนาดนี้ใช้ปูนเท่าไหร่ ผสมน้ำลงไปกวนปูน ตรงนี้ขอบอกเลยครับว่า อย่า ทำ แบบ ผม !!! คนทั่วไปเค้ากวนปูนด้วยจอบครับเพราะมันจะทำให้กวนได้ง่าย แต่ผมกวนผสมปูนด้วยพั้ว โอ้วแม่เจ้าโคตรหนัก โคตรยาก โคตรลำบาก โคตรๆๆๆ อะไรต่อมิอะไรเลยครับ (ผมยังจำความรู้สึกนั้นได้ดี) กว่าจะผสมกันได้ที่ซึ่งไอ้ที่ว่าได้ที่เนี้ยก็คิดเอาเองว่ามันได้ที่แล้วหล่ะ เพราะใช้แรงกวนทั้งตัวเลยครับ ผลที่ได้ก็ออกมาเป็นแบบนี้
แล้วก็รองพื้นหลุมดด้วยหิน 3/4 แบบนี้
แล้วก็เทปูนลงไป แบบนี้
จนปูนหมด แบบนี้
เสร็จขั้นตอนเหล่านี้ ก็หมดวันพอดี และรอให้ปูนแห้ง แล้วก็หมดไปสำหรับ weekend แรกกับการซื้อของ เตรียมพื้นที่ ขุดบ่อ ซื้อปูน ผสมปูน เทปู คราวก็ราดน้ำบ่มปูนไว้ในช่วงวันปกติ จันทร์-ศุกร์ รดน้ำมันทุกวัน เสมือนดังว่าปูนมันจะงอกเพิ่มได้เหมือนต้นไม้ อิอิอิ
เข้าสู่ช่วง weekend ที่2 วันที่19-20 มีนา เหมือนเดิมครับ ไปส่งแฟนทำงานในตอนเช้า กลับมาบ้านจะลงมือทำต่อ พื้นปูนก็แลดูแข็งแรง(น่า)จะทนทาน ขอย้ำอีกครั้งครับว่า ผมคนนี้ไม่เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อน ถามคนโน้นบ้าง คนนี้บ้าง ดูข้อมูลในเนตบ้าง แล้วก็ลงมือทำเลย ซึ่งบ้างครั้ง อุปกรณ์ก็ไม่ได้พร้อมเพียงเรียงเป็นตับ เหมือนช่างมืออาชีพทั่วไป
คราวนี้เทพื้นแล้วก็เริ่มวางแนวอิฐแล้วก็ก่ออิฐ(สินะ) แต่ผมลืมไปว่า ผมยังขาดปูนอีกชนิดหนึ่ง นั้นก็คือปูนก่อสูตรสำเร็จ เอ๊า!!!! ก็ต้องออกไปซื้อมาอีก คราวนี้ก็ไปซื้อปูนก่อมา4ถุง ถึงเวลากวนผสมปูนอีกแล้ว แต่คราวนี้ผมมีอุปกรณ์ที่เหมาะกับงานกวนผสมปูนแล้ว นั้นก็คือ จอบ ครับ!!
จอบ ผมไปซื้อจอบมาแล้ว แล้วเวลาผสมปูนก็ผสมที่ละสองถุง ค่อยเทน้ำ ค่อยผสมไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อย จนแลดูแล้วว่าเนื้อปูนไม่เหนียวเกินไป และไม่เหลวเกินไป ก็เริ่มก่ออิฐตามจินตนาการต่อไป แบบนี้
.
ตรงที่เป็นมุมดันไม่ได้กะระยะของอิฐบล๊อคเวลาที่เราใส่เนื้อปูนลงไป เลยทำให้ไม่ได้ขนาด ด้วยความที่รีบต้องไปรับแฟนกลับบ้านอีก เลยเอาเข้ามุมมันแบบนั้นแหละครับ สำหรับ Week นี้ไม่ค่อยมีเวลาเท่าไหร่เลยไม่ค่อยได้ทำอะไรเยอะ
เข้าสู่ Weekend ที่3 สำหรับ week นี้ไม่ต้องไปส่งแฟนตอนเช้าเพราะแฟนกลับบ้านไปเฉงเม้งตั้งแต่วันศุกร์แล้ว (โย้ว โซ่หลุดเว้ย โซ่หลุด)
ดีใจไปก็เท่านั้น เพราะโปรเจคยังไม่เสร็จ ต้องทำต่อให้เสร็จ เริ่มที่การผสมปูน (อีกแระ) คราวนี้ผสมเยอะหน่อยเพราะกะจะทำให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อยู่บ้านคนเดียว ทำงานคนเดียว เวลาหิวน้ำก็ได้เข้าบ้านไปกินน้ำ เหนื่อยก็พักนั่งเล่นมือถือ แล้วหันไปมองหน้างาน (ถอนหายใจ สู้โว้ย!!) ทำงานต่อ
.
และแล้วเวลาของวันเสาร์ก็หมดลง ต่อมาก็มาถึงคิวของวันอาทิตย์ เหมือนเดิม ตื่นมาก็ตรงดิ่งเข้าหน้างานเลย (แหม่…ยังกะไซส์งานใหญ่) ก่อแนวอิฐบล๊อคเพิ่มขึ้นอีกสองชั้น รวมทั้งหมดแล้วผมก่ออิฐสูงจากพื้นทั้งหมด 10 ชั้น (แอบทำเอียงนิดๆ ให้เอียงเข้ามาในบ้านเรา เพราะกลัวกำแพงจะพังไปบ้านเพื่อนบ้าน)
ทีนี่ก็มาถึงงานฉาบ….. อันนี้ขอบอกเลยครับว่า มันยากกว่าที่ผมดูคนอื่นเค้าทำ หรือดูในคลิปมากกกกก คือกว่าจะทำได้(แบบทุลักทุเล) ก็ต้องทำตั้งแต่เช้ายันบ่าย 5 เลยครับ จริงๆ ตอนที่กำลังนั่งฉาบปูนไป ในใจก็กลัวกำแพงจะถล่มหรือล้มลงมาทับใส่ เพราะบอกตามตรงเลยครับ แอบใจร้อนที่ไม่รอให้ปูนก่อแห้งให้ดีเสียก่อน คือรอวันเดียวแล้วฉาบเลย ผลงานก็เลยได้ออกมาอย่างที่เห็นครับ
.
ตอนนี้ก็รอให้ถึงวันเสาร์หน้าเร็วๆ ครับ เพราะจะเข้าขั้นตอนการก่อชั้นหินกาบ แต่ก็ยังไปซื้อหินกาบก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ได้ร้านในใจแล้ว กะว่าเดี๋ยววันเสาร์จะเข้าไปซื้อ แล้วถ้าทันช่วงบ่ายก็เริ่มก่อชั้นหินเลย
สวัสดีครับทุกทั่น ผมกลับมาแล้ว หลังจาก 1 อาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ต้องนั่งเลียน้ำตาอยู่พักหนึ่ง (555555+) หลังจากที่ได้อ่าน feed back จากเพื่อนๆสมาชิกทั้งหลายมีแต่คนเตือนเรื่องโครงสร้างทั้งนั้นเลย
ที่เงียบไป ไม่ใช่ว่าจะนิ่งนอนใจนะครับ ผมโคตรร้อนใจเลยแหละครับ ก็อย่างว่าแหละครับ เรามันมือใหม่ ไร้ประสบการณ์ ก็ต้องฟังคำทัก คำเตือน และข้อแนะนำจากท่านผู้ที่รู้ ผู้ที่มีความชำนาญ ผู้ที่มีประสบการณ์ หลังจากทำใจได้ ก็เริ่มลงมือต่อเลยครับ ฮึๆๆๆๆ รื้อครับ รื้อ คือรื้อจริงๆครับ รื้อด้วยมือปล่าวใส่ถุงมือ กับฆ้อนขนาดไม่ใหญ่มาก 1 อันเท่านั้น
ผลที่ได้คือ ตกใจครับ ใช้อุปกรณ์ไม่กี่อย่าง ก็สามารถรื้อกำแพงนี้ลงมาได้ (นี่ถ้ายังดื้อไม่ฟังคำทักท้วง ก็เดาได้ไม่ยากเลยว่า ผลต่อไปจะเป็นอย่างไร) ผมใช้เวลารื้อตัวกำแพงทั้งหมด 2 วัน ใช้เวลาหลังเลิกงานแล้วกลับมาบ้านตอนเย็นๆ
.
หลังจากรื้อเสร็จเรียบร้อย วันพฤหัสก็ไปซื้อปูนมาเทปรับพื้น พร้อมด้วยซื้อเสาหน้า 4*4 ยาว1เมตร มา 2 ต้น เอามาทำคานรับอีกชั้นนึง (อย่าด่าเค้านะ) เทปูนปรับพิ้นเสร็จ วันศุกร์บ่มน้ำทิ้งไว้ วันเสาร์เริ่มก่ออิฐใหม่ คราวนี้ใช้อิฐประสาน ซื้อมาทั้งหมด 120ก้อน (ก้อน 20บาท )
ยอมลดความสูง และความกว้างของตัวกำแพง (อิฐแพง บวกด้วยงบเริ่มจำกัดแล้ว) คราวนี้ ผมซื้อเหล็กมาใส่ด้วย ใส่มันไป 9 เส้นเลย สรุป week end ที่ 4 ผมก็จบงานด้วยการก่อกำแพงอิฐขึ้นมาใหม่ ดังรูป
.
.
คุณรู้มั้ยครับว่า การที่ผมโพสต์ลงพันทิปแบบนี้ มันทำให้ผมได้คุยกับเพื่อนบ้านด้วยครับ แทบไม่อยากจะเชื่อเลย
เพราะว่า ในช่วงเวลาที่ผมกำลังก่อกำแพงอยู่นั้น น้องบ้านข้างๆ เค้าก็มาทักและคุยด้วย “พี่ สวัสดีคะ หนูเห็นโพสต์พี่ในพันทิปด้วย”
แฮะๆๆ week นี้พอก่อน ตอนนี้ก็ซื้อหินกาบป่ามาแล้ว 250โล (คนขายเรียกว่า หินกาบป่า โลละ 6บาท) โอ้ย อยากให้ถึงวันเสาร์ไวไวจังเลยครับ ฟิตๆๆๆๆ
แต่ผมมีคำถามหน่อยนึงครับ ว่ายังต้องฉาบปูนที่อิฐอีกมั้ยครับ เพื่อกันน้ำซึมอะครับ
สวัสดีวันห่วยออกครับ ทุกทั่น ( 2 May ) ไม่ได้เข้ามาอัพเดทซะนานเลย เพราะติดงานยุ่งๆ อยู่ครับ แบบว่า งานหลวงไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เสีย ครับ ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมานั้นเป็นวันหยุดยาวของใครหลายๆ คน ซึ่งก็รวมถึงตัวผมด้วย ได้หยุด 9 วัน ยิงยาวไปเลยครับ พี่น้องครับ
วันที่ 9 เมษา
ว่าแล้วก็ต่อจากที่ทำค้างคาไว้เลยครับ คือเริ่มก่ออิฐขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีเอียงบ้างบางก้อน แต่ก็นะ ช่างมันเต๊อะ!!!
.
พอคิดว่าได้ความสูงเป็นที่พอใจแล้ว (อิฐหมดบวกกับเริ่มมีความขี้เกียจเกิดขึ้นมาแล้ว) ก็ไปเตรียมปูนสำหรับฉาบด้านในเพื่อป้องกันเรื่องน้ำซึม (คิดเอาเอง) แล้วก็ฉาบ ฉาบ ฉาบ การฉาบหน้าปูนนี้เป็นอะไรที่เมื้อยแขนเอามากๆ อาจจะเป็นเพราะว่า ร่างกายเริ่มอยากจะบอกว่า เหนื่อยแล้วน้า ฉาบเสร็จก็ออกมาเป็นอย่างที่เห็น
.
ต่อมาวันที่ 11 เมษา เริ่มงานเรียงหินกาบ งานนี้มันเป็นอะไรที่ดูง่ายๆ แต่ มันก็ไม่ง่ายซะทีเดียว หากหินกาบที่เราซื้อมานั้น ขนาดมันไม่ค่อยจะเท่ากันซะเท่าไหร่ ไหนจะรูปทรงอีก ไม่รู้หล่ะ ผสมปูนแล้วก็เตรียมหินมาก่อเรียงขึ้นไปเลย (วัยรุ่นใจร้อน)
.
.
ขั้นตอนการเรียงหินกาบ ผมใช้เวลาทำ 2 วัน (ติดไปเล่นน้ำสงกรานต์) วันที่ 14 เมษา เริ่มด้วยการไปซื้อปูนกาว พอดีไปเจอมา FB แถมเค้าอยู่ภูเก็ตด้วยเลยลองติดต่อไปสอบถาม รวมถึงวิธีการใช้ ปูนกาวชนิดนี้มีให้เลือกหลายสีด้วย ผมจึงเลือกสีดำ (น่าจะดูเท่ห์ดี)
ปูนกาวเค้าขายเป็นถุงๆละ กิโล ถุงละ 450บาท เลยจัดมา 2 ถุง เพราะก่อนขายเค้าถามด้วยว่าขนาดของบ่อเท่าไหร่ กว้าง ยาว ลึก เค้าบอก 2 ถุง ก็เพียงพอ
กลับมาถึงบ้าน ก็เริ่มเลย เอาปูนกาวผสมน้ำทีละน้อยๆ น้อยๆ น้อยๆ ในถังป๊อบคอนที่ได้มาจากการซื้อป๊อบคอร์นตอนดูหนัง
แล้วก็กวนด้วยใบกวนสีแล้วต่อเข้ากับสว่านมือ มันเร็วดีแล้วกวนได้เข้าเนื้อดีกว่ามาก จากนั้นก็เริ่มทาปูนกาวในบ่อ ทาให้ทั่ว ปูนนี้พอผสมน้ำแล้วก็หอมดีครับ (ทาไป นั่งฟินไป) ไม่ใช่แระ
และก็ทางด้านบนด้วย ท่าในจุดที่คิดว่าอาจจะการรั่วซึ่มของน้ำได้
.
หลังจากนั้นก็รอให้ปูนกาวแห้งสนิทอย่างน้อยๆ 72 ช.ม. (อ่านมาจากข้างถุงปูนกาวเลยนะ) ผ่านไปสองวันครึ่ง ด้วยความที่ใจร้อน เอานิ้วเขี่ยๆ แตะๆดูว่ามันแห้งดีแล้วยัง เพราะมันโดนแดดทุกวัน พอคิดว่ามันแห้งแล้ว ก็ซื้อปั๊มน้ำมาทดลองระบบน้ำวนเลย
ผลงานออกมา ต้องบอกเลยครับว่า ยังไม่ค่อยสมบูรณ์สักเท่าไหร่ เดวจะต้องมีการแก้ไขอีกเล็กน้อย เช่น แก้ไขเรื่องน้ำที่กระเซ็นออก อันนี้แก้ไขโดยการตัดหินให้มันมีหน้าตัดให้เท่ากันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และก็อยากจะติดหลอดไฟใต้น้ำไว้สองดวง ไว้เวลากลางคืนปิดไฟแล้ว แสงมันจะกระทบกับผิวน้ำแล้วส่องมาที่หน้าน้ำตก
วันก่อนเพื่อนที่ทำงาน ก็เพิ่งจะซื้อบ้านใหม่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านผมมาก ผมเอารูปม่านน้ำตกนี้ให้ดู (อยากอวดละหว้า) เพื่อนบอกว่า เฮ้ย! ไปทำให้ที่บ้านหน่อยดิ ฮึๆๆๆๆ ผมงี้บอกเพื่อนเลยครับว่า ไม่เว้ย!! ขี้เกียจทำแล้ว 5555+
ทั้งหมดที่ทำมานี้ ส่วนมากไม่ค่อยถูกหลักก่อสร้างสักเท่าไหร่ แต่ก็ใช่ใครอื่นทำ ตัวเราเอง ทำเองทั้งนั้น ถามว่าภูมิใจมั้ย ตอบเลยว่า ภูมิใจมาก ไว้เดี๋ยวถ้าเสร็จสมบูรณ์เมื่อไหร่ จะเอารูปไฟนอลมาลงอีกครั้งครับ
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่าน และให้ข้อเสนอแนะ ถ้าไม่มีท่านเตือนในวันนั้น ผมคงจะสร้างอะไรที่พิลึกขึ้นมาบนโลกนี้ ก็ เป็น ด้ายยยยย
ที่มา : สมาชิกหมายเลข 3078133
