บ้านสวนสีขาวกลางทุ่งหญ้า บนพื้นที่สองไร่ กับประสบการณ์การสร้างบ้านหลังแรก

ในปัจจุบันตามเมืองใหญ่ การจราจรติดขัด แออัด วุ่นวาย คนส่วนใหญ่จึงหลีกหนีไปสร้างบ้านอยู่ตามชนบท ซึ่งบ้านในฝันของใครหลายๆ คน คงจะหนีไม่พ้นบ้านหลังน้อยสี กลางทุ่งหญ้าเขียวขจี พร้อมพื้นที่พักผ่อน ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้สูดโอโซนเพื่อสุขภาพที่ดีอีกด้วย

เช่นเดียวกับคุณ mydog2009 ที่ชื่นชอบบรรยากาศในชนบท จึงได้ตกลงซื้อที่ดิน และจ้างผู้รับเหมารายใหม่ ในการสร้างบ้าน แม้จะผ่านมรสุมในการก่อสร้าง ที่ต้องใช้เวลา และต้องแก้ไขปัญหาไปทีล่ะนิด สุดท้ายแล้วก็ได้บ้านสุดน่าอยู่หลังนี้ขึ้นมาจนได้ค่ะ ตามมาดูกันเลย

บ้านสีขาวกลางทุ่งหญ้า สวยน่าอยู่ บนพื้นที่สองไร่ กับประสบการณ์การสร้างบ้านหลังแรก

(โดย mydog2009)

ก่อนที่จะได้มาของบ้านหลังนี้ เริ่มจากความฝันอยากมีบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้ให้พ่อกับแม่มาพักผ่อนยามเกษียณ โดยที่ตัวเองใช้พักอาศัยอยู่ประจำ โจทย์ก็คือต้องหาเงินก่อนซึ่งทำการกู้มาเรียบร้อย

แล้วตามด้วยหาที่ดินในตอนแรกต้องการประมาณ 1 – 2 งานเท่านั้น เนื่องจากราคาที่ดินแถวนี้พอสมควร (อยู่แถวโอโซนติดอันดับ 7 ของโลก) ในที่สุดก็เจอที่ดิน 1 แปลงแต่คนขาย ขายยกแปลงคือ 2 ไร่ (เกินความต้องการไปเยอะ)

เลยเปลี่ยนแผนว่าซัก 1 ไร่ก็น่าจะได้ ปัญหาอยู่ที่ว่าเจ้าของไม่แบ่งขาย จะตัดใจกับที่แปลงนี้แล้ว แต่เลยลองประกาศหาคนซื้อร่วมแบ่งคนละ 1 ไร่ ในเน็ตดู ประกาศอยู่ 1 เดือน มีพี่คนหนึ่งอยู่ กทม. ซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนโทรติดต่อมาว่าสนใจ เลยนัดกันมาดูสถานที่จริง

ตกลงพี่เค้าชอบที่ผืนนี้ เลยไปมัดจำกับเจ้าของที่วันนั้นเลย พอพี่เค้ากลับ กทม.ไปก่อนถึงวันนัดโอนพี่เค้าโทรมาบอกว่า ไม่อยากได้ 1 ไร่ มันน้อยไปอยากได้ทั้ง 2 ไร่ถ้าไม่ได้ ทั้ง 2 ไร่พี่เค้ายังไม่เอา เราก็ปวดหัวตึบ จะเอายังไงดีถ้าให้พี่แกทั้งหมดแล้วเราจะไปหาที่ไหน ถ้าเราเอาเองไว้ทั้ง 2 ไร่ บ้านก็ยังคงไม่ได้ปลูกเพราะหมดงบ

“ของของเรายังไงก็ต้องเป็นของเรา” เชื่อคำคำนี้กันไหมครับ หลังจากปวดหัวอยู่หลายวันว่าจะเอายังไงดี ที่ก็อยากได้ บ้านก็อยากปลูก เลยปรึกษาพี่ ๆ น้อง ๆ เพื่อน ๆ กันหลาย ๆ คน สรุปได้ว่าเอาที่ไว้ก่อน เลยตัดสินใจเอาไว้คนเดียวทั้ง 2 ไร่

ตั้งใจจะปลูกไม้ผลไว้ก่อน แล้วกู้เงินงวดใหม่ค่อยปลูกบ้าน โอนเรียบร้อยแล้วก็จัดการถากถางแล้วลงไม้ผลไว้ งบประมาณที่คาดว่าจะเอาไว้ปลูกบ้านก็เหลือไม่มากคงไม่พอ

เหลือเงินอยู่ 200,000 บาท ลองคุยกับช่างชาวบ้านดูว่าน่าจะทำได้ แต่มันตึงมาก ๆ ลองหาแบบดูแล้วก็มีแต่เกินงบ เลยมาลองหาดูบ้านแบบน็อคดาวน์ ที่เป็นบ้านไม้หลังเล็ก ๆ แถวสระบุรีดู ราคาก็ไม่ได้ถูกตามขนาดของบ้านเลย ราคาอยู่ที่ 300,000 up เฮ้อ….คงจะหมดหวัง ปลูกกล้วยปลูกมะม่วงทำสวนไปพลาง ๆ ก่อนแล้วกัน รั้วก็ลงโมกไว้กว่าจะได้ปลูกโมกคงโตพอดี

เคยเกริ่นไว้กับเจ้าของที่คนเก่าว่าอยากปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ เป็นบ้านไม้ไสตล์รัสอร์ทแต่มีงบแค่ไม่เกิน 200,000 บาท จะทำได้ไหม พอดีเจ้าของที่เก่าขอบสะสมไม้เก่าและรู้แหล่งซื้อไม้เ่ก่ามือสองได้ในราคาที่ถูก

ประมาณ 3 เดือนผ่านไป เจ้าของที่เก่าโทรมาถามว่ายังสนใจจะปลูกบ้านอยู่ไหม ผมเลยบอกว่าถ้าได้ในราคา 200,000 บาทก็ตกลง

ก็เลยคุยกันหาแบบตอนแรกบอกบ้านอยู่ที่ขนาด 5×6 ใช้ของเก่ามือสองเกือบทั้งหมดตกลงทำโดยไม่ได้เขียนสัญญาหรือทำสัญญาอะไรทั้งสิ้นคือคุยกันด้วยปากเปล่าเพราะเชื่อใจกัน ตกลงปลูกบ้าน

ทำพิธีลงเสาเอกวันที่ 13 พฤษภาคม 2554 แต่ให้คนงานและผู้รับสร้างเป็นคนทำพิธีให้เนื่องจากเจ้าของบ้านติดงาน

การสร้างบ้านหลังน้อย ๆ ก็เริ่มขึ้น โดยไม่มีแบบไม่มีแปลน ไม่มีวิศวะกร ไม่มีสถาปนิก และที่สำคัญไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เริ่มด้วยการไปขอไฟชั่วคราว และคนงานก็เริ่มเข้ามาสร้างที่พัก คิดว่าใช้คนงาน 4-5 คน ระยะเวลาการสร้างประมาณ 1 เดือน – 1.5 เดือน

ต่างคนต่างไม่มีประสบการณ์ตั้งแต่ผู้รับสร้าง ผมโชคดีมากที่จะได้สร้างเป็นหลังแรกของการรับงานสร้างบ้านของผู้รับสร้างรายนี้ (สมควรจะดีใจไหมเนี่ย) ตกลงสร้างในราคา 200,000 บาท บ้านขนาด 5×6 ม. ผมก็เผื่อเหลือเผื่อขาดไว้อีก 50,000 รวมมีงบ 250,000 บาท

การสร้างครั้งนี้แบบอยู่ในหัว 555 ไม่มีลงเสาเข็มเนื่องจากที่ดินบริเวณนั้นเป็นที่ดินเดิม ๆ ไม่มีการถมเพิ่ม เครื่องล่างเป็นไม้ เครื่องบนใช้เหล็ก ไม่กล้าติอะไรช่างมากเนื่องจากเราเจียมตัวว่างบเราน้อย เค้าสร้างให้ก็บุญแล้ว

ของต่อไปนี้จะมาเป็นส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ใช้ของเก่ามือสองเกือบทั้งหมด ผู้รับสร้างเป็นคนจัดหามา จากพวกที่รับรื้อบ้านแล้วเอาของที่ใช้ได้มาขายต่อ กระเบื้องหลังคา

ต่อไปเป็นประตู หน้าต่าง ช่องลมต่าง ๆรวมถึงไม้พื้นไม้ฝาทั้งหมด มาจากหลายที่หลายแหล่ง (ไม่รู้มีเจ้าของเก่าตามมาด้วยหรือปล่าวถ้ามีก็คงจะมาเยอะเพราะมาจากหลายที่ 555)

บานกระทุ้ง

บานกระทุ้ง ส่วนมากจะเป็นไม้เนื้อแข็งทั้งหมด และไม้สักเพราะรื้อมาจากบ้านเก่า ๆ (อันนี้ผู้รับสร้างบอก)

ไม้ฝามาเป็นมัดต้องมาเลือกเอามีดีบ้างเสียบ้าง

ภาพประตูห้องนอน

รวบรัดตัดตอน โครงใกล้เสร็จแล้วครับ มุมตรงเสาปูนจะเป็นส่วนของห้องน้ำ เล่นระดับจากห้องนอนลงมาบันไดประมาณ 3 ขั้นครับ

คั่นด้วย วิวมองออกไปทางหลังบ้านครับ

เริ่มมุงหลังคาครับ(หลังคามือสอง) หญ้าที่เห็นสั้นบ้างยาวบ้างเพราะบ้านหลังนี้ใช้เวลาสร้างยาวนานกว่าที่คิด หญ้ามีการตัดบ้างแต่มีบริการตัดฟรีครับ พร้อมเก็บให้เรียบร้อยครับ เพราะเป็นหญ้าที่ใช้เลี้ยงวัว เจ้าของวัวเลยตัดให้ฟรี ๆ แต่ขอหญ้าเอาไปเลี้ยงวัว

ภาพ

ขยายเพิ่ม (จุดเริ่มต้นของการบาน) ตั้งใจว่าจะกั้นเป็นครัวครึ่งหนึ่ง เอาไว้ให้หมานอนครึ่งหนึ่ง แต่

พื้นเริ่มมา ตั้งวงกบประตู หน้าต่างห้องนอนห้องรับแขก (เล็กๆ)

หน้าต่างด้านหลังห้องนอนเป็นบานกระทุ้งครับ

ประตูหน้าบ้านครับ

มุงหลังคาส่วนขยายเพิ่ม (นี่ก็หลังคามือสอง)

ตรงประตูสีเขียว ตอนแรกตั้งใจว่าจะก่อผนังปิดแล้วมีประตูเปิดเดินออกมาเข้าครัวอีกที

ช่องลมและฝาบ้านเริ่มมาแบบกระดำกระด่าง (เดี๋ยวค่อยศัลยกรรม) มาจากคนละที่คนละหลัง (ถ้ามีเจ้าของมาด้วยก็คงมีเพื่อนเยอะดีไม่เหงา บรื๋อออออออ)

บรรยากาศตอนกลางคืนครับ

ฝามาจะรอบบ้านแล้ว เอ! คุณเสือต้าน บ้านผมมือสองของแท้จริง ๆ ด้วยจะเข้าข่ายได้ลดภาษีไหมเนี่ย 555

มาดูภายในกันบ้างครับ ทางลงจากห้องรับแขก(เล็ก ๆ ) ลงไปห้องน้ำห้องครัวครับ

ระแนงหลังคารอบบ้านใช้ไม้ฝามาซอยแล้วยิงทีละแผ่น ระยะห่างแผ่นละ 5 มิล(มั๊ง เท่ากันบ้างไม่เท่ากันบ้าง)แต่ติมากไม่ได้งบเราน้อย(เจียมตัวสุดๆ)

ระแนงหลังคาอีกภาพ ช่องลมด้านข้างไม่เรียบร้อยไม่สวยเดี่ยวค่อยแก้

งานงอกเพิ่มอีก ความอยาก อยากได้ศาลานั่งเล่น กว้าง 2×2 เมตร

ยังไม่เห็นบ้านขาวสักที อดใจรออีกนิดกำลังจะขาวแล้วครับ ภาพรวมๆ

กรุผนังห้องนอน

ทาสีรองพื้นแล้วครับ

หลายท่านคงสงสัยว่าบ้านยังไม่เสร็จเลยทาสีแล้วถูกต้องครับทำมาถึงตรงนี้ร่วม 2 เดือนกว่า ๆ ได้(จากกำหนดเสร็จแค่ 1 เดือนแต่ไม่มีสัญญาเลยไม่ได้มีการเรียกร้องอะไรกัน) ช่างเริ่มมีปัญหา ลูกน้องช่างเริ่มบ่นว่าทำงานไม่ได้เงิน ทั้ง ๆ ที่ผมได้จ่ายเงินครบทุกครั้งตามที่ผู้รับสร้างเบิก เพื่อไปจ่ายให้หัวหน้าคนงานอีกที

ความมาแตกว่าเบิกเอาไปใช้คนเดียว.หัวหน้าคนงานเลยแก้ปัญหาด้วยการดึงช่างทาสีเข้ามาเพื่อจะเบิกเงินไปหมุน ทั้ง ๆ ที่บ้านอะไรก็ยังไม่เรียบร้อย สรุป ผู้รับสร้างประชุมคุยกับคนงานและหัวหน้าคนงาน เชิญหัวหน้าคนงานออก เหลือช่างอยู่ทำงานแค่ 3 คนโดยไม่มีหัวหน้าคนงาน

ค่าแรงหัวหน้าคนงานก็เบิกไปเกินครึ่งแล้ว แต่ช่างอยากอยู่ทำต่อให้เสร็จจะเป็นยังไงต่อไปฟระเนี่ยะบ้านตรู ผมเริ่มหงอกอีกเพียบ ช่าง 2 คนที่เหลือก็หารค่าแรงที่เหลือคนละครึ่ง ช่างอีกคนหนึ่งเบิกค่าแรงเกือบหมด สุดท้ายงอแงไม่ทำกลับบ้าน ตอนนี้เลยเหลือสารพัดช่าง 1 คน กับชุดช่างทาสี

แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้นช่างที่เหลือ 1 คนเป็นช่างเชื่อม ช่างทำมุ้งลวดอลูมิเนียม งานอื่นผมไม่ค่อยถนัด จะทำไงได้ก็บอกไปว่าค่อย ๆ ฝึกทำไป ถือว่าฝึกงาน (ฮือๆๆๆๆบ้านตรู) มาชมต่อฝีมือช่างคนเดียวกับชุดช่างทาสี ฝ้าหลุมในห้องนอน

ทำกันสาดหน้าต่าง

ขยับช่องลมให้มาอยู่ชิดกัน

มาต่อครับ ไฟดับไปแป๊บขยับช่องลมประตูหน้าบ้านใหม่ให้มาติดกับประตู

ปรับหน้าต่างจากบานตายให้เป็นบานกระทุ้ง

ตอนนี้เหลือช่างคนเดียวแล้วศาลาเริ่มมา แต่มาเป็นหลังคาหน้าจั่ว ดูไม่ค่อยสวยเหมือนศาลาคอยรถเปลี่ยนเป็นทรงปั้นหยาดีกว่าทรงหน้าจั่ว

เปลี่ยนเป็นปั้นหยาในบัดดล

ศาลาพร้อมทางเดินจากในบ้าน ช่างทำคนเดียว

ส่วนขยายที่คิดว่าจะใช้ทำครัวครึ่งหนึ่งเปลี่ยนเป็นปิดทั้งหมด

มรสุมชีวิตยังไม่จบแค่นั้น ผู้รับสร้างแจ้งว่าในส่วนที่ต่อเพิ่มขยายและศาลาขอเพิ่มเงินอีกเบ็ดเสร็จบ้านหลังนี้จบที่ 380,000 บาท ผมก็โอเค ตกลงตามนั้น สารพัดช่างของผมก็ทำคนเดียวมาเรื่อย ๆ จน 3 เดือนผ่านไป เข้าเดือนที่ 4ช่างทาสีก็ทาไป บ้านก็ยังไม่เสร็จ กรรม

ขัดทำพื้น

ช่างสีเก็บสีไปเรื่อยๆ

หลังคาศาลามาแล้วหลังคาบ้านก็เปลี่ยนสี

ช่างสีเก็บสีไปเรื่อยๆ

ทางขึ้นบ้านจากทางหลังบ้าน

มาถึงตอนนี้ก็เจอมรสุมอีกรอบ เมื่อผมจ่ายเงินครบ 380,000 บาท ผู้รับสร้างแจ้งว่าขาดทุนไปเป็นแสนแล้วทำต่อไปไม่ไหว ขอให้ช่วยเค้าเพิ่มอีก ตอนนั้นผมหมดจริง ๆ เลยบอกว่าผมจะช่วยเพิ่มได้อีกประมาณ 20,000 บาท แต่ถ้าผมมีเงินผมก้จะช่วยเพิ่มอีก

จากนั้นอีก3 วัน ทางผู้รับสร้างก็แจ้งว่าเงินอีก 20,000 บาทไม่ต้องโอนให้เค้าแล้ว .แต่ต่อไปให้ผมจ่ายค่าแรงช่างเองซื้อของเอง หากมีอะไรที่จะให้เค้าช่วยก้โทรบอกเค้า เค้าไม่ได้ทิ้งงาน แล้วก็หาช่างมาให้ผมอีก 1 ชุด โดยที่ผมรับผิดชอบเองทั้งหมด อึ้ง + ช็อค

ทางขึ้นจากครัว + ห้องน้ำ

ทำประตูบานเลื่อนห้องนอน

ตกลงลุยเอง ก็ลุยเอง ความจริงช่องที่เว้นไว้หน้าห้องนอนคิดว่าจะใช้กระจกแต่นาทีนี้คือต้องการให้จบงานเร็ว และประหยัดงบที่สุด ที่เหลือจึงหันมาใช้บริการไม้ฝาเฌอร่า

ขอฝ้าหลุมในห้องนอน 1 หลุม